การสร้างร้านค้าออนไลน์มี 2 วิธี ได้แก่ ใช้โปรแกรมร้างเว็บอีคอมเมิร์ซ หรือจ้างบริษัทพัฒนาเว็บไซต์ โดยวิธีที่คุณเลือกจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายของร้าน
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมักเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดในการเริ่มต้นร้านออนไลน์ การใช้แพลตฟอร์มฟรีและโอเพนซอร์สอาจดูน่าสนใจ แต่คุณจะต้องจ่ายค่าโฮสติ้ง ธีม ปลั๊กอิน และแม้แต่ความช่วยเหลือจาก Developer หากคุณมีความต้องการเฉพาะ และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะทำให้ตัวเลขงบประมาณในการทำเว็บสูงขึ้นด้วย
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคจำกัด
- ผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว
ราคาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณต้องการ และขึ้นอยู่กับว่าคุณมีร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงหรือไม่
รวมลิสต์ค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ราคากลางจ้างทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะอยู่ที่ประมาณ 1,400 บาท สำหรับร้านค้าใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น การออกแบบ การปรับแต่ง และแพลตฟอร์มที่คุณเลือก
มาดูการประมาณค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
- การลงทะเบียนโดเมน: 300-1,000 บาทต่อปี
- การโฮสต์เว็บไซต์: 170-8,500 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับแพคเกจและผู้ให้บริการโฮสติ้ง)
- ใบรับรอง SSL: มีตั้งแต่ฟรี (จากผู้ให้บริการโฮสติ้งบางราย) ไปจนถึงราคา 6800 ต่อปี
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: แพลตฟอร์มที่มีการโฮสต์ เช่น Shopify ราคาตั้งแต่ 670-11,000 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับแผนและฟีเจอร์ แพลตฟอร์มโอเพนซอร์ส (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด แต่มีค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนขยาย ปลั๊กอิน และธีม)
- ออกแบบและพัฒนาเว็บ: ธีมที่สร้างไว้ล่วงหน้า: มีตั้งแต่ฟรีไปจนถึง 6,800 บาท การออกแบบและปรับปรุงเพิ่มเติมต้องใช้งบตั้งแต่ 68,000-680,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน ฟีเจอร์ และฟังก์ชันที่ต้องการ
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: ค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชำระเงิน โดยจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ (PayPal, Stripe, Shop Pay) และปริมาณการทำธุรกรรม ส่วนการตลาดดิจิทัล และโฆษณาก็จะแตกต่างกันไปตามงบประมาณและกลยุทธ์ ส่วนด้านบำรุงรักษาและให้บริการลูกค้าผ่านเว็บไซต์ (CS) ก็เช่นกัน ราคาอาจแตกต่างกันไปตามระดับการสนับสนุนที่ต้องการ
6 ค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซพื้นฐาน
- โฮสติ้ง
- ประมวลผลการชำระเงิน
- ค่าดีไซน์
- ค่าปรับแต่งฟีเจอร์
- ส่วนเสริมและส่วนขยาย (Extensions)
- ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ
1. โฮสติ้ง
ค่าใช้จ่ายในการโฮสต์เว็บไซต์อาจแตกต่างกัน โดยเริ่มต้นที่ต่ำเพีย 85 บาทต่อเดือน และสูงขึ้นไปกว่า 33,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น จำนวนผู้เข้าชมร้านค้า และบริการเพิ่มเติมที่คุณอาจต้องการ เช่น การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะอย่างไร เว็บไซต์ทุกแห่งต้องการการโฮสต์เพื่อเก็บไฟล์ และยังต้องใช้ชื่อโดเมนซึ่งเหมือนกับที่อยู่บ้านดิจิทัลสำหรับเป็นชื่อร้านค้าอีคอมเมิร์ซ
มีการโฮสต์เว็บไซต์ 2 ประเภทที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซนิยมใช้กันทั่วไป ได้แก่ การโฮสต์ผ่านแพลตฟอร์ม SaaS และการโฮสต์ด้วยตนเอง
การโฮสต์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ SaaS
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify ที่คุณไม่ต้องติดตั้ง จัดการ หรือโฮสต์โดเมนด้วยตนเอง ทุกอย่างที่คุณต้องการรวมอยู่ในค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกรายเดือน
การโฮสต์ที่ปลอดภัย มาพร้อมกับทุกแพคเกจของ Shopify ซึ่งประกอบไปด้วย
- แบนด์วิดธ์ไม่จำกัด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าต้องจ่ายมากขึ้นหากมีคนเข้ามาดูเว็บจำนวนมาก
- การปฏิบัติตาม PCI ระดับ 1 ซึ่งช่วยปกป้องข้อมูลลูกค้า
- เซิร์ฟเวอร์รวดเร็วอัปเดตทันที ดังนั้นคุณจะไม่พลาดฟีเจอร์ล่าสุด
- ใบรับรอง SSL เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า
- ระบบจัดการคอนเท้นท์ที่เชื่อถือได้ เพื่อจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์
- การส่งต่ออีเมลได้แบบไม่จำกัด
คุณเพียงแค่ต้องซื้อและลงทะเบียนชื่อโดเมนแยกต่างหาก คุณสามารถค้นหาชื่อโดเมนที่มีอยู่ได้ผ่านโปรแกรมตั้งชื่อสร้างชื่อโดเมนของ Shopify และเริ่มต้นธุรกิจของคุณได้อย่างรวดเร็ว

ราคาชื่อโดเมนเริ่มต้นที่ประมาณ 500 ต่อปี แต่สามารถสูงถึง 2,700+ ต่อปี ขึ้นอยู่กับโดเมนระดับบนสุด (TLD) ที่คุณเลือก
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่โฮสต์ด้วยตนเอง
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซบางตัว เช่น WooCommerce (ปลั๊กอินสำหรับ WordPress) และ Magento เปิดให้ใช้ฟรี แต่ต้องมีบัญชีกับผู้ให้บริการโฮสติ้งอีคอมเมิร์ซเ พื่อจัดการไฟล์และซื้อโดเมน
ส่วนค่าใช้จ่ายบางรายการที่จะต้องจ่ายเมื่อโฮสต์เว็บไซต์ด้วยตนเอง ได้แก่
- บัญชีโฮสติ้งอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเริ่มต้นที่ 270 บาทต่อเดือน
- ชื่อโดเมน ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 ต่อปี
- ใบรับรอง SSL ซึ่งเริ่มต้นที่ 2400 ต่อปี
มีผู้ให้บริการโฮสติ้งบางราย เช่น Bluehost ที่เสนอบริการพร้อมชื่อโดเมนฟรีและใบรับรอง SSL ในราคา 100 บาทต่อเดือน
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ เมื่อร้านค้าอีคอมเมิร์ซเติบโต คุณจะต้องอัปเกรดแพคเกจโฮสต์ เพื่อจัดการกับการเพิ่มขึ้นของการเข้าชม หากคุณมีเว็บไซต์ที่มีผู้ชมจำนวนมาก การโฮสต์ด้วยตนเองอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 34,000 ถึง 68,000 บาทต่อเดือน
การประมาณค่าใช้จ่ายในการโฮสต์
- โฮสต์ผ่าน SaaS: ขั้นต่ำเพียง 1320 บาทต่อเดือน พร้อมการโฮสต์ไม่จำกัด
- โฮสต์ด้วยตนเอง: ระหว่าง 95 ถึง 68,000 บาทต่อเดือน พร้อมการอัปเกรดที่เพิ่มขึ้น
แหล่งข้อมูลดีๆ
2. ประมวลผลการชำระเงิน
ผู้ประมวลผลการชำระเงิน คือบริษัทที่จัดการธุรกรรม เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าของคุณได้ โดยร้านค้าอีคอมเมิร์ซทุกแห่งต้องมีเพื่อรับการชำระเงินจากบัตรเครดิต บัตรเดบิต และตัวเลือกการชำระเงินอัจฉริยะอื่นๆ
หนึ่งในค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ สำหรับส่วนการประมวลผลการชำระเงินจะขึ้นอยู่กับแพคเกจของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เลือกไว้ ตัวอย่างเช่น แผน Shopify Basic มีค่าธรรมเนียมการประมวลผลสำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ที่ 2.9% บวก 10 บาทต่อธุรกรรม และแผน Shopify Advanced มีค่าธรรมเนียม 2.4% หากคุณรับการชำระเงินแบบตัวต่อตัว ค่าธรรมเนียมจะต่ำกว่า เพราะมีความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงน้อยกว่า
ทุกแผนของ Shopify มาพร้อมกับ Shopify Payments ซึ่งช่วยให้คุณเริ่มขายได้ทันที เมื่อเปิดใช้งาน Shopify Payments คุณสามารถรับบัตรเครดิต และเกตเวย์การชำระเงินยอดนิยมอื่นๆ เช่น Shop Pay, Apple Pay และ G Pay
การเสนอ Shop Pay เป็นตัวเลือกในการชำระเงิน ทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ง่าย ด้วยข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งที่บันทึกไว้
3. ค่าดีไซน์
คุณรู้หรือไม่ว่าใช้เวลาแค่ประมาณ 50 มิลลิวินาที (0.05 วินาที) ในการเขียนรีวิวหรือคอมเม้นท์เกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ? ไม่เพียงแค่นั้น เพราะกค้าซื้อสินค้าตามความไว้วางใจ และการสร้างแบรนด์ก็สามารถช่วยสร้างความไว้วางใจนั้นได้
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify มีเทมเพลตที่คุณสามารถนำไปใช้กับเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย เครื่องมือเหล่านี้เป็นวิธีที่รวดเร็วและคุ้มค่าในการเริ่มต้น Shopify Themes มีเครื่องมือในตัวเพื่อปรับแต่งเลย์เอาต์ สี สไตล์ และการตั้งค่าอื่นๆ
เทมเพลตเหล่านี้มาพร้อมกับทุกอย่างที่ต้องใช้สำหรับการสร้างร้านค้าของคุณ
Shopify Themes มีธีมฟรีและเสียเงินมากกว่า 100 ธีมเพื่อช่วยให้คุณค้นหาลักษณะและความรู้สึกที่เหมาะสมสำหรับร้านค้าของคุณ คุณสามารถค้นหาธีมตามหมวดหมู่ เช่น วิดีโอและผลิตภัณฑ์ 3D ภาพขนาดใหญ่ สินค้าจำนวนมาก ทั้งสไตล์มินิมอล สนุกสนาน และอื่นๆ

แหล่งข้อมูลดีๆ
- 18 ธีม Shopify ที่ดีที่สุดในปี 2024
- เคล็ดลับการดีไซน์เว็บไซต์สำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่คุณต้องรู้
- ตัวอย่างและเคล็ดลับออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสวยๆ
4. ค่าปรับแต่งฟีเจอร์
จากการปรับปรุงดีไซน์ทั้งหมด ไปจนถึงการปรับแต่งหลังบ้าน บางครั้งคุณอาจต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้ร้านค้ามีลุคตามที่คุณต้องการ
ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะต้องรวมค่าออกแบบ การเปิดตัว และการบำรุงรักษาตามความต้องการทางธุรกิจเฉพาะ ซึ่งเจ้าของร้านสามารถทำงานร่วมกับนักพัฒนา (Developer) เพื่อปรับปรับแต่งธีม Shopify
ความสามารถในการปรับแต่งเครื่องมือบน Shopify ช่วยให้เราสามารถผลักดันเวปไซต์ไปสู่ขีดสุดและสร้างประสบการณ์ระบบชำระเงินแบบคัสต้อมที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจและมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการชำระเงินจะปลอดภัยและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลจากเว็บไซต์
จอห์น ฮาร์ท ผู้จัดการอีคอมเมิร์ซที่ Peepers
ราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริการที่คุณต้องการ หน่วยงานพัฒนาบางแห่ง เช่น OuterBox เรียกเก็บเงินมากกว่า 3,378,900 บาท สำหรับงานปรับแต่ง หรืองานจากเว็บไซต์ Shopify ชั้นนำรายอื่นๆ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 17,000 บาทถึง 676,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับขอบเขตของงาน
แล้วทางเลือกที่ดีที่สุดคืออะไร? ลองตรวจสอบตลาดพันธมิตรของ Shopify หากคุณต้องการงานออกแบบหรือการปรับแต่งเครื่องมือต่างๆ บนเว็บไซต์ โดยคุณสามารถค้นหาฟรีแลนซ์ หรือบริษัทที่เสนอการพัฒนาธีมในราคาที่ต่ำกว่าการจ้างนักพัฒนาประจำบริษัท
5. ส่วนเสริมและส่วนขยาย (Extensions)
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ซอฟต์แวร์อีคอมเมิร์ซหนึ่งตัวจะตอบสนองความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ทุกแห่ง ดังนั้นโอกาสที่คุณต้องการเพิ่มฟีเจอร์บางอย่างลงในเว็บไซต์ของคุณจึงมีความเป็นไปได้สูง
ซอฟต์แวร์อีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณเพิ่มแอปพลิเคชันลงในร้านค้า เพื่อขยายฟังก์ชันการทำงานของเว็บอีคอมเมิร์ซและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ บางตัวฟรีและบางตัวมีค่าใช้จ่าย ซึ่งเครื่องมือพวกนี้ก็สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายในการสร้างร้านค้าออนไลน์ได้
Shopify App Store มีแอปพลิเคชันหลายพันรายการให้คุณเลือก และมีแอป Shopify ฟรี มากมาย ไม่ว่าคุณต้องการเพิ่มการตลาดผ่านอีเมล ขายบนโซเชียลมีเดีย เพิ่ม Social Proof ให้กับร้านค้าหรือปรับปรุงการทำ SEO ทุกส่วนต่างก็มีแอปฯ เฉพาะเจาะจง

ราคาแอปพลิเคชันที่ต้องชำระเงินแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะมีให้ในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายเดือน คุณยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับร้านได้ แอปเหล่านี้จะถูกเก็บและทำงานบนเซิร์ฟเวอร์อื่น แต่คุณสามารถสร้างคีย์ API ของ Shopify เพื่ออนุญาตให้แอปเข้าถึงได้
คัสต้อมแอปฯ อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 16,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเรทราคาของนักพัฒนาเว็บไซต์ที่คุณเลือก
แหล่งข้อมูลดีๆ
- 20+ ฟรีแอป Shopify ที่ดีที่สุดสำหรับร้านค้า Shopify
- แอป AI แอปปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย
6. ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ
งบประมาณเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเสมอ คุณสามารถเปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซได้ในราคาเพียง 3,000 กว่าบาท แต่คุณอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้นในการผลักดันธุรกิจ
ตามการวิจัยล่าสุดของเรา เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ใช้จ่ายประมาณ 130,000 บาทในปีแรก โดย 9% ของงบประมาณนั้นถูกจัดสรรให้กับความต้องการทางธุรกิจออนไลน์ (สถิติของผู้ค้าบน Shopify ใช้จ่ายเฉลี่ย 130,000 บาทในขณะที่ผู้ค้าทั่วไปใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 138,000 บาท)

การทำกำไรจากธุรกิจออนไลน์ต้องใช้เวลา ดังนั้นควรเลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ไม่กินเงินงบประมาณ และรองรับเครื่องมือที่คุณต้องการ
มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจในปัจจุบันและสิ่งที่คุณวาดภาพไว้ในอนาคต จากนั้นค้นหาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่จะช่วยให้คุณไปถึงจุดนั้น
วางแผนค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอย่างมืออาชีพ เริ่มได้เลยตอนนี้
จริงๆ แล้วค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซนั้นไม่แพง
เพราะหลังจากซื้อชื่อโดเมนสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซแล้ว คุณอาจจะมีค่าใช้เพียง 1,400 บาทต่อเดือน สำหรับร้านค้าออนไลน์มาตรฐานกับ Shopify และหากเพิ่มฟีเจอร์ที่คัสต้อม หรือรวมแอปพลิเคชันที่ต้องชำระเงิน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจเพิ่มขึ้น ซึ่ง Shopify เปิดโอกาสให้เลือกจำนวนเงินที่คุณต้องการใช้จ่ายล่วงหน้าได้ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณและกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอยู่ที่เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอาจอยู่ระหว่าง 680 ถึง 337,000 บาทหรือมากกว่านั้น ซึ่งรายจ่ายจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มที่ใช้ ความซับซ้อนของการออกแบบ จำนวนสินค้า ฟีเจอร์ที่คัสต้อม และอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์ต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์ต่อเดือนขึ้นอยู่กับประเภทของเว็บไซต์ ความซับซ้อนของเว็บไซต์ และบริการที่ต้องการ โดยทั่วไป เว็บไซต์พื้นฐานที่มีการโฮสต์ ระบบความปลอดภัย และบริการเพิ่มเติมบางอย่าง อาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 170 ถึง 1700 บาทต่อเดือน เว็บไซต์ที่ซับซ้อนมากขึ้นที่มีการออกแบบและการพัฒนาที่คัสต้อม อาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 17,000 ถึง 170,000 บาทต่อเดือน
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ถูกที่สุดหาได้จากที่ไหน?
ตัวเลือกเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ถูกที่สุดคือ Shopify ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพียง 1,400 บาทต่อเดือน คุณจะได้รับใบรับรอง SSL ฟรีและธีมที่สร้างไว้ล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นเมื่อพิจารณาแอปพลิเคชันและความพยายามในการตลาด
การพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ในการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ค่าใช้จ่ายอาจอยู่ระหว่างหลักหมื่นบาทสำหรับโซลูชันที่สร้างไว้ล่วงหน้า (ระดับพื้นฐาน) ไปจนถึงหลักแสนบาทสำหรับเว็บไซต์ที่ดีไซน์เองและเต็มไปด้วยฟีเจอร์