ครีเอเตอร์บน YouTube ก็คือคนดังที่สร้างชื่อด้วยตัวเองในยุคนี้ พวกเขาสร้างฐานผู้ชมจากการผลิตวิดีโอที่ให้ความบันเทิง ความรู้ ข้อมูล หรือแบบกว้างๆ ก็คือทำให้เรารู้ว่าอินเทอร์เน็ตนั้นเจ๋งแค่ไหน
หากคุณประสบความสำเร็จบน YouTube คุณก็สร้างรายได้จากวิดีโอและช่องของคุณได้หลายวิธี บางวิธีใช้ฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน YouTube บางวิธีก็ต้องนำผู้ชมออกไปที่เว็บไซต์ภายนอก
ก่อนอื่นคือการเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ Youtube
โปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถใช้วิธีการต่างๆ ในการสร้างรายได้จาก Shorts ไล์ฟสด และวิดีโอแบบยาว
สิ่งที่ครีเอเตอร์ซึ่งเข้าร่วมโปรแกรมจะสามารถเข้าถึงได้ มีดังนี้
- ส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณาระหว่างเล่นวิดีโอและ Shorts
- ส่วนแบ่งรายได้จากผู้ใช้ YouTube Premium ที่ชมคอนเทนต์ของคุณ
- เงินจากฟีเจอร์ Super Chat, Super Thanks และการเป็นสมาชิกช่อง
- YouTube Shopping เพื่อเสนอสินค้าต่อผู้ชมของคุณ
โปรแกรมนี้ยังให้การเข้าถึงทีมสนับสนุนครีเอเตอร์ YouTube และ Copyright Match Tool ซึ่งจะช่วยปกป้องคอนเทนต์ของคุณ
การเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ไม่ใช่วิธีเดียวในการทำเงินจาก YouTube และอาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ทำเงินได้มากที่สุดสำหรับช่องของคุณ ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อย่างเช่น การนำผู้ชมออกจากแพลตฟอร์มไปยังร้านค้าหรือตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของคุณ หรือการสร้างวิดีโอแบบมีสปอนเซอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะกล่าวถึงด้านล่างนี้
อย่างไรก็ตาม วิธีสร้างรายได้จาก YouTube ส่วนใหญ่จะทำได้ง่ายขึ้น หรือเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเป็นสมาชิกของโปรแกรมพาร์ทเนอร์เท่านั้น
YouTube ได้ทุ่มเงินกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ให้กับสมาชิกโปรแกรมพาร์ทเนอร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นให้พิจารณาเข้าร่วมหากคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ด้านล่าง
วิธีเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์
ในการที่จะมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์โปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube และเข้าถึงฟีเจอร์การสร้างรายได้ ช่องของคุณต้องมีความสำเร็จตามเกณฑ์ต่อไปนี้
- มีผู้ติดตาม 1,000 ราย
- มีเวลารับชม 4,000 ชั่วโมงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือมีการดู 10 ล้านครั้งในช่วง 90 วันที่ผ่านมาสำหรับ Shorts
คุณสามารถปลดล็อกบางฟีเจอร์ของโปรแกรมได้แม้มีจำนวนผู้ติดตามหรือเวลารับชมน้อยกว่านั้น
ช่องของคุณยังต้องมีสถานะดีใน YouTube และปฏิบัติตามนโยบายการสร้างรายได้ของ YouTube ทั้งหมด นอกจากนี้ คุณต้องอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่เข้าเกณฑ์
เมื่อคุณพร้อมที่จะสมัครแล้ว ให้ไปที่ YouTube Studio ของช่องของคุณ และเปิดแท็บสร้างรายได้
7 วิธีทำเงินจาก YouTube
- เปิดโฆษณาสำหรับวิดีโอของคุณ
- ชวนคนดูสปอนเซอร์ด้วยการให้เงิน
- ขายสินค้า
- เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ให้แบรนด์
- ขายสิทธิ์ให้สื่อใช้คอนเทนต์คุณ
- ระดมทุนทำโครงการของตัวเอง
- ทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณา
1. เปิดโฆษณาสำหรับวิดีโอของคุณ
แพลตฟอร์มโฆษณาของ YouTube เกือบทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ (YouTube)
เมื่อคุณได้รับการตอบรับเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มสร้างรายได้จาก YouTube คือการเก็บรายได้จากโฆษณาที่แสดงในช่องของคุณ
เมื่อคุณสร้างวิดีโอแบบยาวและเปิดโฆษณา YouTube จะแสดงโฆษณาที่จะแสดงก่อนเริ่มและหลังจบวิดีโอให้กับผู้ชมของคุณ ซึ่งอาจจะข้ามได้หรือไม่ได้ก็ได้ คุณไม่สามารถควบคุมว่าโฆษณาใดจะแสดงตอนต้นหรือตอนท้ายวิดีโอของคุณ แต่สำหรับวิดีโอที่มีความยาว 8 นาทีขึ้นไป คุณสามารถเลือกได้ว่าจะวางโฆษณาไว้ในช่วงกลางวิดีโอหรือไม่ คุณสามารถเลือกใส่โฆษณาตอนกลางโดยอัตโนมัติ หรือวางด้วยตนเองก็ได้
ให้เลือกแท็บรายได้ใน YouTube Studio ของคุณเพื่อดูรายงานรายได้จากโฆษณา รวมถึงรายได้โดยประมาณรายเดือนสำหรับวิดีโอที่เปิดการสร้างรายได้
ลองมองหาวิธีการสร้างรายได้ที่มากกว่าโฆษณา
แม้โฆษณา YouTube เป็นวิธีการสร้างรายได้ที่ง่ายและพาสซีฟ แต่คุณน่าจะต้องรวมโฆษณาเข้ากับกลยุทธ์อื่นๆ ในการสร้างรายได้ เพื่อให้มีรายได้ที่สมน้ำสมเนื้อ
สำหรับครีเอเตอร์บางราย นโยบายการสร้างรายได้ของ YouTube ถือได้ว่ามีความระมัดระวังมากเกินไป ดังนั้นมีโอกาสที่คอนเทนต์บางส่วนของคุณจะไม่เหมาะสมกับโฆษณา แถม YouTube ยังเก็บส่วนแบ่ง 45% ของรายได้โฆษณาจากวิดีโอทั่วไป และ 55% จาก Shorts
2. ชวนคนดูสปอนเซอร์ด้วยการให้เงิน
สำหรับครีเอเตอร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมพาร์ทเนอร์ ฟีเจอร์การให้เงินสนับสนุนของแฟนๆ ทาง YouTube จะเป็นช่องทางที่ผู้ชมสามารถสนับสนุนช่องของคุณได้โดยตรงโดยการให้ทิปและการชำระเงินรายเดือน
Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks เป็นข้อความและการแจ้งเตือนสีสันสดใส ที่ผู้ชมของคุณสามารถซื้อเพื่อสนับสนุนช่องของคุณในระหว่างไลฟ์สดหรือวิดีโอพรีเมียร์ เมื่อซื้อแล้ว ฟีเจอร์เหล่านี้จะไฮไลต์ความคิดเห็นของแฟนๆ ในกล่องแชท
ในทำนองเดียวกัน การเป็นสมาชิกช่องของ YouTube ก็จะมอบสิทธิพิเศษมากมายที่คุณสร้างขึ้นสำหรับแฟนๆ ที่ชำระเงิน โดยคุณสามารถสร้างระดับสมาชิกช่องของ YouTube ได้สูงสุด 6 ระดับ พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น
- ป้ายช่องและอิโมจิที่กำหนดเอง ซึ่งจะทำให้สมาชิกคนนั้นเด่นขึ้นมาในช่องแชทสดและช่องความคิดเห็น
- โพสต์ชุมชน, Shorts และวิดีโอที่ดูได้เฉพาะสมาชิกของคุณเท่านั้น
- สิทธิ์ในการดูวิดีโอของคุณก่อนใคร
- แชทสดและไสฟ์สดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
- ส่วนขอบคุณสมาชิก ซึ่งจะแสดงภาพโปรไฟล์ของสมาชิกที่ด้านบนของหน้าช่อง
วิธีอื่นๆ ในการให้เงินสนับสนุนของแฟนๆ
คุณยังสามารถขอรับบริจาคสำหรับช่องของคุณได้ นอกเหนือจากการใช้ระบบนิเวศของ YouTube ทำเงิน
Patreon เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงสำหรับการให้เงินสนับสนุนของแฟนๆ ซึ่งครีเอเตอร์สามารถนำเสนอคอนเทนต์ สิทธิ์การเข้าถึง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อแลกกับการบริจาคเป็นประจำ
แม้คุณอาจต้องลงทุนด้านคอนเทนต์เพิ่มเติมเพื่อตอบแทนแฟนๆ ที่บริจาค แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มาพร้อมวิธีง่ายๆ ให้ผู้ชมสามารถสนับสนุนคุณได้อย่างต่อเนื่อง
แพลตฟอร์มด้านการสนับสนุนของแฟนๆ นอกเหนือจาก Patreon ได้แก่
- Tipeee ที่คุณสามารถระดมเงินบริจาคได้ทั้งแบบครั้งเดียวและแบบเป็นประจำ
- Buy Me a Coffee ที่ให้ครีเอเตอร์และศิลปินรับบริจาคโดยมักมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า Patreon
- Ko-fi แพลตฟอร์มที่มีค่าธรรมเนียมต่ำอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง สำหรับการบริจาค การสมัครรับ และการระดมทุน
3. ขายสินค้า
YouTube Shopping มาพร้อมวิธีที่ง่ายในการช่วยให้แฟนๆ ซื้อสินค้าจากคอนเทนต์ของคุณได้โดยตรง สิ่งที่คุณสามารถทำได้ผ่าน YouTube Shopping มีดังนี้
- เปิดหน้าร้านบนช่องของคุณ
- เชื่อมร้านค้าออนไลน์ของคุณกับช่องของคุณ เพื่อแสดงสินค้าของคุณใกล้ๆ กับวิดีโอ
- แท็กสินค้าของคุณหรือสินค้าจากแบรนด์อื่นในวิดีโอ
ตามข้อมูลภายในของ YouTube ครีเอเตอร์กว่า 160,000 รายใช้ YouTube Shopping ในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของตนเอง
ครีเอเตอร์หลายคนเลือกที่จะโปรโมทสินค้า อย่างกระเป๋าผ้า หมวก และเสื้อยืด หรือแนะนำสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขารีวิวหรือร่วมงานด้วย
การขายสินค้าที่มีแบรนด์นั้นง่ายกว่าที่คุณคิด ลองใช้บริการพิมพ์ลวดลายตามสั่ง เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ในราคาเข้าถึงได้ ซึ่งจะผลิตและจัดส่งตามการสั่งซื้อล่วงหน้าดูสิ
วิธีตั้งค่า YouTube Shopping
วิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้ YouTube Shopping คือการเชื่อมต่อร้านค้า Shopify ของคุณกับช่อง YouTube ของคุณ ด้วยวิธีนี้ รายการสินค้าของคุณจะซิงค์โดยอัตโนมัติ และลูกค้าของคุณสามารถชำระเงินบน YouTube หรือเยี่ยมชมร้านค้าของคุณเพื่อประสบการณ์การช้อปปิ้งที่จัดเต็มกว่าเดิมได้
ถ้าคุณยังไม่มีร้านค้าออนไลน์ ก็เริ่มสร้างร้านของคุณด้วยการทดลองใช้งาน Shopify ฟรีได้เลย
เริ่มขายสินค้าของคุณบน YouTube จาก Shopify
Shopify มาพร้อมเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยคุณโปรโมทและขายสินค้าบน YouTube ซิงค์แค็ตตาล็อกสินค้าของคุณ แท็กหรือปักหมุดสินค้าในไลฟ์สด และจัดการยอดขายทั้งหมดจาก Shopify ได้
4. ทำงานร่วมกับแบรนด์ในฐานะอินฟลูเอ็นเซอร์
หลากหลายแบรนด์ต่างกำลังลงทุนกับการตลาดอินฟลูเอ็นเซอร์และให้สปอนเซอร์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้งบประมาณโฆษณาของแบรนด์ไปกับอินฟลูเอ็นเซอร์ที่มัดใจฐานผู้ชมของตนเองได้แล้ว
นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับคุณในฐานะครีเอเตอร์ หากคุณสามารถต่อรองดีลที่เหมาะสม เพื่อแลกกับโชว์สินค้าของแบรนด์ให้กับผู้ชม
Brendan Gahan ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด YouTube และอินฟลูเอ็นเซอร์ ได้แนะนำให้กำหนดค่าธรรมเนียมพื้นฐานของคุณโดยนำยอดเข้าชมวิดีโอของคุณมาคูณกับ 1.99 บาท ถึง 15 บาท ต่อ 1 ยอดเข้าชม
คุณอาจสามารถเจรจาดีลที่ดีกว่านี้ได้หากแบรนด์นั้นเหมาะกับคุณ โดยขึ้นอยู่กับอำนาจการต่อรองของคุณ ซึ่งหมายถึงกลุ่มเป้าหมาย คุณภาพของคอนเทนต์ รวมถึงความเป็นเอกลักษณ์และความสามารถในการทำกำไรของช่อง
เมื่อทำคอนเทนต์ที่มีสปอนเซอร์จากแบรนด์ต่างๆ เข้ามา กุญแจสำคัญคือความโปร่งใส และคุณควรสนับสนุนเฉพาะสินค้าที่คุณชอบหรือเชื่อมั่นจริงๆ เท่านั้น
- Shopify Collabs ทำให้การค้นหาแบรนด์ที่ตรงกับคอนเทนต์และสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นเรื่องง่าย เพราะคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์แบบตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ รับค่าคอมมิชชันจากสิ่งที่คุณขาย และติดตามทุกอย่างในที่เดียวได้
- YouTube ยังมีฟีเจอร์ในตัวสำหรับเชื่อมต่อกับแบรนด์ ซึ่งจะนำข้อมูลด้านผู้ชมของคุณไปจับคู่พันธมิตรแบรนด์ให้กับช่องของคุณ
5. ขายสิทธิ์ให้สื่อใช้งานคอนเทนต์ของคุณ
ถ้าคุณเกิดสร้างวิดีโอที่เป็นไวรัลขึ้นมา เช่น วิดีโอตลกๆ ของสุนัขคุณ คุณสามารถขายสิทธิ์ในการใช้คอนเทนต์นั้นได้
สำนักข่าวโทรทัศน์ รายการช่วงเช้า เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ และครีเอเตอร์คนอื่นๆ อาจติดต่อมาขอใช้วิดีโอของคุณหากวิดีโอนั้นกลายเป็นไวรัล
นอกจากนี้ คุณยังสามารถลงขายวิดีโอของคุณในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Jukin Licensing ได้ด้วย ทำให้คนที่ต้องการซื้อสามารถเจอและซื้อคอนเทนต์ของคุณได้ง่ายๆ
6. ระดมทุนจัดทำโปรเจคท์ของตัวเอง
เมื่อเงินเป็นสิ่งเดียวที่ขวางอยู่ระหว่างไอเดียและการลงมือทำ การระดมทุนจึงเป็นวิธีที่ดีในการทำให้หนังไวรัลเรื่องต่อไปของคุณเป็นจริงขึ้นมาได้
ไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลือในการซื้ออุปกรณ์ที่ดีกว่าเดิม การจ้างนักแสดง หรือค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ในการผลิต คุณก็สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ชมและชุมชนของคุณได้ ถ้าไอเดียของคุณน่าสนใจพอ
โครงการสร้างสรรค์แบบระดมทุนหลายโครงการจะดึงดูดเงินทุนโดยการนำเสนอตัวอย่างหรือเทรลเลอร์หนัง ที่จะทำให้ผู้คนตื่นเต้น ดังนั้นให้คุณลองอธิบายโครงการของคุณผ่านวิดีโอ หรือโชว์ตัวอย่างของสิ่งที่คุณจะสร้างดู
เว็บไซต์ระดมทุนยอดนิยมที่สร้างรายได้ให้กับ YouTuber อย่างงามก็อย่างเช่น
- Kickstarter หนึ่งในเว็บไซต์ระดมทุนที่มีชื่อเสียงที่สุด เหมาะสำหรับการระดมทุนสร้างผลิตภัณฑ์และโครงการสร้างสรรค์เจ๋งๆ อย่าลืมตั้งเป้าหมายการระดมทุนที่ทำได้จริง เพราะคุณจะได้รับเงินทุนก็ต่อเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
- Indiegogo อีกทางเลือกหนึ่งที่มีตัวเลือกการระดมทุนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
7. ทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ เป็นกลยุทธ์การสร้างรายได้จากคอนเทนต์ที่คุณจะได้รับค่าคอมมิชชันโดยการโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือบริการจากแบรนด์อื่นในวิดีโอของคุณ
หากคุณเป็นครีเอเตอร์ YouTube คุณสามารถก้าวสู่การเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการได้ โดยสร้างคอนเทนต์การตลาดที่โปรโมทผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมของคุณ
วิธีการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
ในการเริ่มทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ ให้มองหาโปรแกรมตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ ที่ตรงกับคอนเทนต์ของคุณและมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ชมของคุณ ยิ่งผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์มีความเกี่ยวข้องมากเท่าไร คุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อคุณลงทะเบียนแล้ว คุณสามารถเพิ่มลิงก์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการลงในคำอธิบายวิดีโอหรือการ์ดท้ายวิดีโอของคุณ
การเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการจะได้ผลดี ถ้าคุณปกติคุณทำคอนเทนต์รีวิวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ลงใน YouTube อยู่แล้ว และเนื่องจากแบรนด์ไม่ต้องรับความเสี่ยงใดๆ (แบรนด์จะจ่ายก็ต่อเมื่อมียอดขาย) การเริ่มต้นเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการจึงไม่ค่อยยาก เพียงแต่คุณต้องแจ้งอย่างชัดเจนว่า คุณเป็นตัวแทนโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่คุณกำลังรีวิว
YouTube ทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นด้วยโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ซึ่งช่วยให้คุณเจอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคุณได้อย่างรวดเร็ว และดูเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชันได้ เมื่อคุณพบผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการโปรโมท คุณก็แท็กผลิตภัณฑ์ลงในวิดีโอได้ง่ายๆ เลย
ถึงครีเอเตอร์ทุกคนจะสามารถโพสต์วิดีโอและลิงก์ตัวแทนโฆษณาบน YouTube ได้ แต่การจะใช้โปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ได้นั้น คุณต้องเป็นสมาชิกโปรแกรมพาร์ทเนอร์ และอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือเกาหลีใต้
หาตัวแทนโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ
ในทางกลับกัน หากคุณเป็นครีเอเตอร์ที่มีผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ให้พิจารณาหาตัวแทนโฆษณาเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณ
ผู้ขายบน Shopify ที่ได้รับสิทธิ์ สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ของตนลงในโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ตัวแทนโฆษณาสามารถค้นหาและโปรโมทผลิตภัณฑ์ลงในวิดีโอของตนได้ ให้คุณซิงค์ผลิตภัณฑ์ของคุณผ่านแอปพลิเคชัน Shopify YouTube และตั้งอัตราค่าคอมมิชชันที่คุณสะดวกได้เลย
ให้ครีเอเตอร์ YouTube คนดังโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณ
เพิ่มผลิตภัณฑ์ของคุณลงในโปรแกรมแอฟฟิลิเอตของ YouTube ได้ง่ายๆ ตั้งอัตราค่าคอมมิชชันของคุณเอง และให้ครีเอเตอร์ YouTube นำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณในวิดีโอของพวกเขา เพื่อให้ผู้ชมสามารถช้อปผลิตภัณฑ์ของคุณระหว่างดูวิดีโอได้
การได้เงินจาก YouTube เรื่องของตัวเลขล้วนๆ
คุณต้องมียอดเข้าชมเท่าไหร่บน YouTube ถึงจะทำเงินได้?
ช่อง YouTube ทั่วๆ ไปจะได้รับประมาณ 60 บาท ต่อยอดเข้าชม 1 ครั้ง ซึ่งเท่ากับ 600 ต่อยอดเข้าชม 100 ครั้ง ตามข้อมูลจาก Influencer Marketing Hub
ยอดการเข้าชมที่คุณได้รับนั้นไม่ได้สัมพันธ์กับรายได้ที่คุณได้รับ หากวิดีโอของคุณมียอดเข้าชมหลายพันครั้ง แต่ไม่มีใครดูหรือคลิกที่โฆษณา คุณก็จะไม่ได้รับเงิน เพราะเกณฑ์ของ YouTube สำหรับการเรียกเก็บเงินจากผู้โฆษณาคือ ผู้ชมต้องคลิกที่โฆษณาหรือดูโฆษณาวิดีโอให้ครบ (10, 15 หรือ 30 วินาที) เพื่อให้คุณได้รับเงิน
YouTuber ทำเงินได้เท่าไหร่ต่อปี?
YouTuber ชั้นนำอย่าง MrBeast สามารถทำเงินได้หลายสิบล้านดอลลาร์ต่อปีจากช่องของตัวเอง ถึงช่องเหล่านั้นจะทำรายได้มหาศาล แต่ช่องที่เล็กลงมาก็สามารถหารายได้จาก YouTube ได้เช่นกัน
ยกตัวอย่างช่อง YouTube ของ Justine Leconte ซึ่งมีผู้ติดตาม 1 ล้านคน ช่องของเธอช่วยให้ผู้คนแต่งตัวได้ดีขึ้นและเข้าใจแฟชั่นมากขึ้น จากการยอดเข้าชมทั้งหมดของเธอและจากรายได้โฆษณาโดยประมาณ รายได้ต่อปีของเธออยู่ที่ประมาณ 8.6 ล้านบาท เท่ากับว่าโดยเฉลี่ยแล้วเธอทำเงินได้วิดีโอละ 32,000 บาท เมื่อคำนวนตาม YouTube Money Calculator ของ Influencer Marketing Hub
จากตัวเลขโดยประมาณเหล่านี้ Justine สามารถทำรายได้จากช่อง YouTube ของเธอโดยการโพสต์วิดีโอสัปดาห์ละ 1-2 วิดีโอ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่านี่เป็นเพียงการคะเนโดยคร่าวเท่านั้น Justine อาจทำเงินได้มากหรือน้อยกว่าตัวเลขข้างต้น ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การสร้างรายได้จาก YouTube ที่เธอใช้กับธุรกิจของเธอ
YouTuber เพิ่มรายได้ของตนเองได้อย่างไร?
ช่อง YouTube สามารถทำเงินได้ แม้ว่าจะไม่ได้มีผู้ติดตามเป็นล้านๆ คน ความสามารถในการทำเงินของคุณยังขึ้นอยู่กับระดับการมีส่วนร่วมที่คุณสร้าง ความสนใจเฉพาะทางของคอนเทนต์ที่คุณทำ และช่องทางหารายได้ที่คุณใช้
ลิสต์รายชื่อครีเอเตอร์ YouTube ที่ทำเงินสูงสุด อาจทำให้คุณรู้สึกว่า รายได้หลายล้านดอลลาร์นั้นมาจาก YouTube โดยตรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ช่องเหล่านี้มีไลน์สินค้าของตนเองต่างหาก ช่องเหล่านี้เริ่มต้นจากการสร้างฐานผู้ชมของตนเองก่อน แล้วจึงเปิดตัวช่องทางหารายได้อื่นๆ หากแผนการตลาดของคุณมี YouTube เป็นหนึ่งในนั้น ขั้นตอนแรกของคุณก็เหมือนกับทุกคน นั่นก็คือคุณต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างชัดเจน
เคล็ดลับในการขายบน YouTube
กลยุทธ์การสร้างรายได้จาก YouTube หลายอย่างเกี่ยวข้องกับการโปรโมทผลิตภัณฑ์ แต่คุณจะต้องมั่นใจว่าการโปรโมทของคุณจะไม่ทำลายความสมบูรณ์ของคอนเทนต์ของคุณ
“ขายออก” เป็นความกังวลหลักๆ สำหรับครีเอเตอร์หลายคน ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่เคยแสวงหาค่าตอบแทน ก็แปลว่าคุณไม่น่าจะมีโอกาสได้รับมัน
ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อใส่คอนเทนต์โฆษณาลงในวิดีโอของคุณ โดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าต้องอดทนดู
เข้าใจผู้ชมของคุณบน YouTube
การสร้างฐานผู้ชมของคุณเองจะทำให้คุณอยู่มีโอกาสในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้หลายวิธี แต่คุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสของคุณได้มากที่สุดหากคุณเข้าใจผู้ชมของคุณ
สำหรับ YouTuber หลายคน การมีช่องที่เน้นความสนใจเฉพาะทาง สามารถช่วยให้คุณทำงานร่วมกับแบรนด์ที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ สิ่งที่คุณต้องใส่ใจมีดังนี้
- เพศของผู้ชมของคุณ เพื่อดูว่ามันเอนไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่
- ช่วงอายุที่ผู้ชมส่วนใหญ่
- สถานที่ทางภูมิศาสตร์ เช่น ประเทศหรือเมือง ที่มีคนดูวิดีโอของคุณมากที่สุด
- ระดับการมีส่วนร่วมโดยรวมของผู้ชม หรือ “เวลาที่รับชม”
ด้วยข้อมูลประชากรเหล่านี้ คุณจะเข้าใจผู้ชมของคุณและทำงานร่วมกับแบรนด์ได้ดีขึ้น ข้อมูลเชิงลึกด้านประชากรทั้งหมดสามารถดึงจาก YouTube Analytics
เพิ่มการ์ดข้อมูลในวิดีโอของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับแบรนด์ หรือคุณกำลังโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณเอง การ์ดข้อมูล (เดิมเรียกว่า YouTube Cards) ก็เป็นวิธีที่สะดุดตาในการดึงดูดความสนใจของผู้ชมที่มีส่วนร่วม
ใช้ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอฟรี เพื่อใส่ป๊อปอัพให้เด้งขึ้นมาถูกเวลา โดยป๊อปอัพต้องมีความเกี่ยวข้องมากที่สุดและรบกวนสายตาน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
Alt text: วิดีโอ YouTube ที่มีการ์ดข้อมูล 2 ใบและโฆษณาขายรองเท้า
เพิ่มลิงก์ในคำอธิบายวิดีโอของคุณ
คุณสามารถพาผู้ชมไปยังร้านค้าของคุณ, หน้าของ Patreon, แคมเปญ Kickstarter หรือแหล่งรายได้อื่นๆ โดยการเพิ่มลิงก์ในคำอธิบายวิดีโอของคุณ
Alt text: ในคำอธิบายวิดีโอ Gymshark บน YouTube มีลิงก์ให้ไปติดตามแบรนด์ในโซเชียลมีเดีย
โปรโมทข้อเสนอของคุณในแพลตฟอร์มอื่น
เพียงเพราะคอนเทนต์ของคุณอยู่ใน YouTube ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรใช้ประโยชน์จากช่องทางอื่นๆ ลองโพสต์ข่าวเกี่ยวกับแคมเปญใหม่หรือส่วนลดลงใน X, Facebook และโปรไฟล์อื่นๆ ที่คุณมีดูสิ ยิ่งข้อความของคุณปรากฏในหลายที่มากเท่าไร โอกาสที่จะถูกเห็นก็จะยิ่งมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นความคิดที่ดีเสมอที่จะขยายผู้ติดตามของคุณนอกเหนือจาก YouTube โดยใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
ขาขึ้นของครีเอเตอร์
เงินไม่ค่อยเป็นปัจจัยกระตุ้นสำหรับครีเอเตอร์ แต่ด้วยกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่ถูกต้อง ครีเอเตอร์ก็สามารถเปลี่ยนความชอบของตนเองให้กลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้ แถมยังได้รับรางวัลจากการทุ่มเทอย่างหนักและการลองผิดลองถูกเพื่อเอาชนะอัลกอริธึมของ YouTube ด้วย
ลองดูเส้นทางของ MrBeast ที่เริ่มทำวิดีโอเมื่ออายุ 13 ปี และใช้เวลาหลายปีในการขัดเกลาคอนเทนต์ไวรัลของตัวเอง ตั้งแต่วิดีโอ Let’s Plays ไปจนถึงวิดีโอประมาณรายได้ของ YouTuber คนอื่นๆ
งานที่ยากที่สุดสำหรับหลายๆ ธุรกิจก็คือการขยายกลุ่มเป้าหมาย และรักษาความสนใจของพวกเขาเอาไว้ให้ได้ ซึ่ง YouTuber ก็มีส่วนประกอบที่สำคัญนี้แล้ว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเงินจาก YouTube
คุณต้องมียอดเข้าชมเท่าไหร่บน YouTube ถึงจะทำเงินได้?
จำนวนการดูที่ช่อง YouTube ของคุณได้รับไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ได้รับ หากวิดีโอของคุณมียอดเข้าชมหลายพันครั้ง แต่ไม่มีใครมีส่วนร่วมกับโฆษณาที่แสดงก่อนวิดีโอของคุณ คุณก็จะทำเงินไม่ได้ เพราะเกณฑ์ของ YouTube สำหรับการเรียกเก็บเงินจากผู้โฆษณาก็คือ ผู้ชมต้องคลิกที่โฆษณาหรือดูโฆษณาวิดีโอให้ครบ (10, 15 หรือ 30 วินาที) เพื่อให้คุณได้รับเงิน
คุณทำเงินได้เท่าไหร่ต่อยอดเข้าชม 1,000 ครั้ง YouTube?
ช่อง YouTube โดยเฉลี่ยได้รับประมาณ 0.6 บาท ต่อยอดเข้าชม 1 ครั้ง ซึ่งเท่ากับ 600 บาท ต่อยอดเข้าชม 1,000 ครั้ง
ตามข้อมูลจาก Influencer Marketing Hub
คุณได้รับเงินสำหรับการอัปโหลดวิดีโอบน YouTube หรือไม่?
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ได้รับเงินจาก YouTube สำหรับวิดีโอที่พวกเขาอัปโหลด ในการเริ่มทำเงินจาก YouTube คุณต้องเปิดใช้งานการสร้างรายได้ในการตั้งค่าบัญชี YouTube ของคุณ จากนั้นคุณมีตัวเลือกในการเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube หรือให้วิดีโอของคุณถูกจัดอยู่ใน YouTube Premium
YouTuber ทำเงินได้อย่างไร?
- เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube
- ขายสินค้า
- ระดมทุน
- แฟนๆ ให้เงินสนับสนุน
- ขายสิทธิ์ให้สื่อใช้งานคอนเทนต์
- ทำงานร่วมกับแบรนด์ในฐานะอินฟลูเอ็นเซอร์
- เป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
คุณจะทำเงินจาก YouTube ได้อย่างไรโดยไม่ต้องทำวิดีโอ?
ในการทำเงินจาก YouTube โดยไม่ต้องผลิตวิดีโอนั้น คุณสามารถร่วมมือกับครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียง เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณให้ผู้ชมของเขาดู ผู้ใช้ Shopify ที่ได้รับสิทธิ์สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ของตนลงในโปรแกรมแอฟฟิลิเอตของ YouTube ได้เลยเพียงคลิกแค่ไม่กี่ครั้ง ทำให้ครีเอเตอร์สามารถแท็กผลิตภัณฑ์ในวิดีโอของพวกเขา เพื่อให้ผู้ชมสามารถช้อปผลิตภัณฑ์ระหว่างดูวิดีโอได้