โลโก้ของธุรกิจไม่ใช่แค่การนำสัญลักษณ์ ตัวอักษร และสีต่างๆ มารวมกัน แต่โลโก้คือหน้าตาของแบรนด์ ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะจดจำเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ โลโก้ที่ดีสามารถช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของบริษัท ในขณะที่โลโก้ที่ออกแบบไม่มาดีอาจเป็นอุปสรรคต่อการตลาดและยอดขาย
สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ การลงทุนกับโลโก้ที่ออกแบบโดยมืออาชีพอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ทำได้จริง แต่ข่าวดีก็คือ ยังมีทางเลือกอื่นที่ทำให้ไม่ต้องมานั่งออกแบบเองจากศูนย์นะ เพราะโปรแกรมออกแบบโลโก้ออนไลน์ช่วยให้สร้างโลโก้ได้ง่ายขึ้น ในราคาที่เข้าถึงได้ หรือบางครั้งก็ใช้ฟรี มาดูตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าจดจำกัน
จัดอันดับ 9 โปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด
โปรแกรมเหล่านี้ช่วยให้สร้างโลโก้ที่สมบูรณ์แบบได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูง ทำให้การออกแบบแบรนด์ของคุณเป็นที่น่าจดจำ และโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง
- Shopify Logo Maker
- Canva
- Ucraft AI Logo Generator
- Squarespace
- Looka
- Tailor Brands Logo Maker
- Designhill
- BrandCrowd
- Placeit
1. Shopify Logo Maker

โปรแกรมออกแบบโลโก้ฟรีของ Shopify มีดีไซน์โลโก้สำเร็จรูปหลายร้อยแบบให้คุณเลือก และปรับแต่งให้เข้ากับแบรนด์ได้ตามต้องการ จะปรับสี ฟอนต์ ไอคอน หรือเลย์เอาต์ ก็ได้หมด เพื่อให้โลโก้ของคุณดูโปรและไม่ซ้ำใคร แม้ว่าขีดความสามารถในการแก้ไขของโปรแกรมออกแบบโลโก้นี้จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จำกัด เพื่อให้สามารถสร้างโลโก้ได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาแนวทางในการดีไซน์
ถ้าต้องการดีไซน์ที่เฉพาะตัวมากขึ้น ก็สามารถเลือกซื้อเทมเพลตโลโก้พรีเมียมภายในโปรแกรมออกแบบโลโก้นี้ได้ และจ่ายเฉพาะที่ดาวน์โหลดเท่านั้น
โปรแกรมนี้สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายบน Shopify หรือไม่ก็ตาม ไฟล์โลโก้ที่ได้สามารถดาวน์โหลดในฟอร์แมตที่เหมาะกับโซเชียลมีเดีย งานพิมพ์ และการนำไปใช้กับตัวสินค้าได้
ราคา: ฟรี พร้อมตัวเลือกในการซื้อเทมเพลตพรีเมียม
2. Canva

Canva หนึ่งในโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด มาพร้อมประสบการณ์การออกแบบที่ปรับแต่งได้เองมาขึ้น แต่ยังคงใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ คุณสามารถค้นหาเทมเพลตตามประเภทธุรกิจหรือสไตล์ที่ต้องการ และกรองผลลัพธ์เพิ่มเติมได้ เช่น ถ้าค้นหาคำว่า “coffee shop” ก็สามารถเลือกโลโก้ที่มีรูปแก้วกาแฟหรือเมล็ดกาแฟได้
เมื่อเลือกดีไซน์แล้ว คุณก็สามารถแก้ไขเทมเพลตได้เอง โดยเปลี่ยนชื่อธุรกิจ เพิ่มสโลแกน หรือใส่องค์ประกอบอื่นๆ ตามต้องการ นอกจากนี้ Canva ยังมีเครื่องมือ AI สำหรับแปลงข้อความเป็นภาพเพื่อสร้างกราฟิกแบบเฉพาะตัวได้
เมื่อออกแบบเสร็จแล้ว คุณสามารถดาวน์โหลดโลโก้ความละเอียดสูงได้ฟรี และนำไปใช้งานได้ตามต้องการได้เลย
ราคา: ฟรี
3. Ucraft AI Logo Generator

Ucraft เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างโลโก้ได้รวดเร็วที่สุด เพียงกรอกชื่อร้าน เลือกหมวดธุรกิจจากเมนู เลือกคีย์เวิร์ดที่สื่อถึงแบรนด์ และเลือกสีหรือชุดสีที่ต้องการ จากนั้น AI ของ Ucraft จะสร้างตัวเลือกโลโก้ที่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับข้อความ เพิ่มรูปร่าง หรือไอคอนก็ได้หมด ตัวแก้ไขก็ใช้งานง่าย ทำให้ได้ดีไซน์ที่สะอาดตาและเรียบง่าย
ไฟล์โลโก้ที่ได้จะเป็น PNG ความละเอียดสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกซื้อ “Brandbook” ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่มาพร้อมคู่มือสไตล์แบรนด์และชุดเครื่องมือสำหรับโซเชียลมีเดีย
ราคา: ฟรี พร้อมตัวเลือกซื้อ Brand Style Book ในราคาประมาณ 1,080 บาท
4. Squarespace

Squarespace ต่างจากเครื่องมือสร้างโลโก้อื่นๆ เพราะ Squarespace คือโปรแกรมสร้างโลโก้ฟรีที่ให้คุณออกแบบโลโก้จากศูนย์แทนการใช้เทมเพลต เริ่มต้นด้วยการใส่ชื่อธุรกิจและเลือกไอคอนจากไลบรารีที่สามารถค้นหาได้ จากนั้นปรับแต่งฟอนต์และสีของโลโก้ ดีไซน์ที่ได้จะเรียบง่ายแต่ดูสะอาดตา สอดคล้องกับสไตล์ของ Squarespace
คุณสามารถพรีวิวโลโก้บนนามบัตร เว็บไซต์ หรือแม้แต่บนเสื้อผ้าได้ ก่อนดาวน์โหลดไฟล์โลโก้ต้องสมัครบัญชีฟรีก่อน
ราคา: ฟรี
5. Looka

Looka เป็นหนึ่งในโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด ขัเคลื่อนโดยขุมพลัง AI และมาพร้อมกับตัวแก้ไขที่ใช้งานง่าย เพียงกรอกชื่อธุรกิจและอุตสาหกรรม เลือกตัวอย่างโลโก้ที่ชอบ เลือกสีสูงสุดสามสี ใส่สโลแกน (ถ้าต้องการ) และเลือกไอคอนตามคีย์เวิร์ดที่กำหนด
หลังจากเลือกเทมเพลตโลโก้แล้ว สามารถปรับแต่งดีไซน์ผ่านตัวแก้ไขที่ใช้งานง่ายของ Looka ได้ สามารถปรับสไตล์โลโก้โดยใช้คำแนะนำ เช่น “Professional,” “Calm,” หรือ “Energetic” หรือเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบเฉพาะ เช่น สีตัวอักษรและการจัดวางเส้น
ราคา: เริ่มต้น 720 บาท สำหรับดาวน์โหลดโลโก้พื้นฐาน สูงสุด 3,456 บาทต่อปี สำหรับแพ็กเกจแบรนด์แบบครบวงจร
6. Tailor Brands

โปรแกรมสร้างโลโก้ของ Tailor Brands จะถามข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจและสไตล์ที่คุณต้องการอย่างละเอียด เพื่อแนะนำตัวเลือกเทมเพลตที่เหมาะสม ทำให้คุณลดเวลาการแก้ไขโลโก้ หลังจากที่คุณกรอกชื่อธุรกิจและสโลแกน (ถ้ามี) แล้ว ระบบก็จะให้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ประเภทธุรกิจ และคำอธิบายแบบสั้นๆ ให้
จากนั้น คุณก็จะต้องกำหนดสไตล์ที่ต้องการ โดยเลือกประเภทโลโก้และฟอนต์ ระบบจะแสดงตัวเลือกโลโก้ที่ปรับแต่งเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถแก้ไขได้ เช่น การเปลี่ยนรูปแบบ สัดส่วน ฟอนต์ และเลย์เอาต์ แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้ทุกจุดอย่างละเอียด แต่ข้อจำกัดนี้ก็อาจช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่ไม่มีพื้นฐานด้านดีไซน์สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
โปรแกรมของ Tailor Brands จะแสดงตัวอย่างโลโก้บนสินค้าต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพจริงก่อนใช้งาน คล้ายกับเครื่องมือของ Squarespace
ราคา: เริ่มต้นประมาณ 144 บาทต่อปี
7. Designhill

Designhill หนึ่งในโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด เริ่มต้นด้วยการให้เลือกตัวอย่างโลโก้ที่ชอบ เพื่อช่วยกำหนดสไตล์ที่ต้องการ จากนั้นให้คุณเลือกชุดสีและแพทเทิร์น แล้วระบบจะนำเสนอโลโก้ในหลายรูปแบบให้เลือก คุณสามารถแก้ไขโลโก้ได้อย่างละเอียด ทั้งการเพิ่มตัวอักษรย่อ เปลี่ยนขอบโลโก้ หรือปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆ เช่น สีตัวอักษรและฟอนต์
สิ่งที่ทำให้ Designhill แตกต่างคือทางเลือกในการทำงานร่วมกับนักออกแบบมืออาชีพในราคาประมาณ 4,500 บาท เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่อยู่ระหว่างการออกแบบด้วยตนเองและการจ้างดีไซเนอร์แบบเต็มรูปแบบ
ราคา: ประมาณ 720 บาท สำหรับไฟล์ความละเอียดต่ำ, แพ็กเกจประมาณ 2,340 บาท สำหรับไฟล์ความละเอียดสูงหลายรูปแบบ และประมาณ 4,500 บาทสำหรับการร่วมงานกับนักออกแบบของ Designhill โดยตรง
8. BrandCrowd

BrandCrowd มีดีไซน์ให้เลือกมากกว่า 236,000 แบบ แต่ยังคงใช้งานง่าย เพียงกรอกชื่อธุรกิจและคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ระบบจะนำเสนอโลโก้ที่สามารถกรองผลลัพธ์ตามสีและสไตล์ เช่น “Corporate,” “Mascot,” หรือ “Vintage”
เมื่อพบโลโก้ที่ถูกใจ คุณสามารถปรับแต่งได้โดยใช้เครื่องมือแก้ไขของโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด BrandCrowd ไม่ว่าจะเป็นเลย์เอาต์ สี ข้อความ เงา และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์
ราคา: แพ็กเกจดาวน์โหลดเริ่มต้นที่ประมาณ 180 บาทต่อเดือน
9. Placeit

Placeit จะเลือกสรรเทมเพลตโลโก้มาให้คุณตามประเภทอุตสาหกรรม ซึ่งเลือกจากเมนูแบบดรอปดาวน์ ถ้าไม่มีหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณ คุณก็สามารถเลือกหมวดหมู่ที่กว้างขึ้นได้ เช่น “Abstract” เพื่อดูตัวเลือกที่เหมาะสม เมื่อเลือกเทมเพลตโลโก้แล้ว สามารถปรับแต่งได้โดยเลือกฟอนต์และสีที่ต้องการ พร้อมพรีวิวโลโก้บนสินค้าและสื่อรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพการใช้งานจริง
ราคา: ประมาณ 360 บาท (สำหรับการดาวน์โหลดครั้งเดียว) หรือประมาณ 270 บาทต่อเดือน (สำหรับการเข้าถึงไฟล์หลายรูปแบบและคลังเทมเพลตที่ขยายเพิ่ม)
ทำไมโลโก้ที่ดูเป็นมืออาชีพถึงสำคัญต่อแบรนด์
ตั้งแต่ลายเส้นตัวโค้งรูป M สีเหลืองทองของ McDonald’s ไปจนถึงสัญลักษณ์ Swoosh ของ Nike โลโก้ที่โดดเด่นสามารถกลายเป็นภาพจำที่แข็งแกร่งไม่แพ้ตัวแบรนด์ แม้โลโก้ของคุณอาจไม่จำเป็นต้องเป็นที่รู้จักทั่วโลก แต่การออกแบบที่ดีสามารถมอบประโยชน์สำคัญได้มากมาย อาทิ
- ดึงดูดความสนใจของลูกค้า โลโก้อาจเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าได้เห็นเกี่ยวกับแบรนด์ ดังนั้นควรทำให้เป็นที่จดจำและสร้างความประทับใจแรกที่ดี
- สื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ โลโก้ที่ดีช่วยเป็นพื้นฐานของอัตลักษณ์แบรนด์และสะท้อนคุณค่าของธุรกิจได้ เช่น ถ้าคุณดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าสำหรับนักเดินป่า โลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติสามารถสื่อถึงแนวคิดด้านความยั่งยืนได้ทันที
- ช่วยให้จดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง โลโก้ที่โดดเด่นช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง และทำให้ผู้คนจดจำธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าจะอยู่บนเสื้อฮู้ดหรือโฆษณาบนมือถือ
เคล็ดลับการออกแบบโลโก้
โปรแกรมออกแบบโลโก้ออนไลน์ดีๆ ช่วยให้สร้างโลโก้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยส่วนใหญ่จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เพื่อให้ดีไซน์ของคุณสื่อถึงแบรนด์และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองพิจารณาเคล็ดลับต่อไปนี้
- กำหนดคุณค่าของแบรนด์ ระบุอัตลักษณ์ของธุรกิจเพื่อนำทางการออกแบบ เช่น ถ้าคุณขายเสื้อแฟลนเนลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบาย โลโก้ที่ใช้โทนสีอบอุ่นและให้ความรู้สึกวินเทจอาจเหมาะกว่าดีไซน์แบบมินิมอลสีเทา
- อย่าหยุดที่ดีไซน์แรก ลองออกแบบมาหลายๆ แนวทางและเปรียบเทียบกัน เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะกับแบรนด์มากที่สุด
- เรียนรู้จิตวิทยาของสีและรูปทรง ทำความเข้าใจว่าคนเห็นโลโก้อาจตีความการออกแบบของคุณอย่างไร เช่น สีเหลืองอาจเชื่อมโยงกับความสนุกสนาน ในขณะที่สีดำให้ความรู้สึกหรูหรา
- อย่าตามเทรนด์มากไป โลโก้ที่ดีที่สุดคือโลโก้ที่ไร้กาลเวลา รู้จักเทรนด์ปัจจุบันเพื่อให้สามารถแยกแยะและหลีกเลี่ยงแนวทางที่อาจล้าสมัยในอนาคต
- ทำให้แบรนด์โดดเด่น เลือกองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ หลีกเลี่ยงดีไซน์ที่ดูธรรมดาหรือซ้ำกับแบรนด์อื่นๆ อาจใช้สีหรือองค์ประกอบที่มีอยู่ในอัตลักษณ์แบรนด์ของคุณ
- รักษาความเรียบง่าย โลโก้ควรจดจำได้ง่ายในพริบตา หลีกเลี่ยงการออกแบบที่ซับซ้อนเกินไป
- คำนึงถึงการใช้งานในทุกขนาด ตรวจสอบว่าโลโก้ยังดูดีและอ่านออกชัดเจน ไม่ว่าจะอยู่บนใบปลิวขนาดเล็กหรือบิลบอร์ดขนาดใหญ่
- ขอความคิดเห็นจากผู้อื่น เช่นเดียวกับที่นักเขียนต้องการบรรณาธิการ การออกแบบโลโก้ก็อาจต้องการมุมมองจากภายนอก ลองสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าหรือผู้เชี่ยวชาญด้านดีไซน์ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้ายดู
ถ้าคุณเกิดติดขัดระหว่างกระบวนการออกแบบ ให้ลองพิจารณาจ้างนักออกแบบกราฟิกมาช่วยสร้างโลโก้ที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ คุณสามารถค้นหานักออกแบบที่ตรงกับโปรเจกต์ได้จากฐานข้อมูลอย่าง Shopify Experts
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด
จะสร้างโลโก้ของตัวเองยังไง
- กำหนดอัตลักษณ์ของแบรนด์
- หาแรงบันดาลใจในการออกแบบ
- ใช้แอปโปรแกรมออกแบบโลโก้ที่ดีที่สุด
- เลือกสีที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์
- เลือกฟอนต์ที่เหมาะกับภาพลักษณ์
- ออกแบบโลโก้หลายๆ เวอร์ชันเพื่อเปรียบเทียบ
- ขอความคิดเห็นจากคนอื่น
- ปรับแต่งดีไซน์ที่ดีที่สุดให้ลงตัว
โลโก้ฟรี มีวิธีสร้างอย่างไร
- เข้าไปที่เครื่องมือสร้างโลโก้ฟรีของ Shopify
- กรอกชื่อธุรกิจและเลือกอุตสาหกรรม
- เลือกสไตล์โลโก้ที่สะท้อนแบรนด์ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก สนุกสนาน หรือมินิมอล
- ปรับแต่งโลโก้โดยเลือกฟอนต์ สี และไอคอนที่เข้ากับแบรนด์ (เพิ่มสโลแกนได้)
- พรีวิวโลโก้และแก้ไขตามความเหมาะสม
- กดดาวน์โหลด เพื่อรับไฟล์โลโก้
- ใช้โลโก้กับเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย นามบัตร และสื่อการตลาดอื่นๆ
โปรแกรมออกแบบโลโก้ฟรีที่ดีที่สุด มีโปรแกรมไหนบ้าง?
- Shopify Logo Maker
- Canva
- Ucraft
- Squarespace
- Looka (ออกแบบฟรี ดาวน์โหลดเสียเงิน)
- Tailor Brands Logo Maker (ออกแบบฟรี ดาวน์โหลดเสียเงิน)
- Designhill (ออกแบบฟรี ดาวน์โหลดเสียเงิน)
- BrandCrowd (ออกแบบฟรี ดาวน์โหลดเสียเงิน)
- Placeit (ออกแบบฟรี ดาวน์โหลดเสียเงิน)