การช้อปปิ้งได้จากทุกที่กำลังได้รับความนิยม เพราะการค้าบนมือถือ แอปค้าปลีก และตลาดออนไลน์ เช่น Amazon เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถมองหาและเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อมีตัวเลือกในการช้อปปิ้งมากขึ้น วิธีการชำระเงินก็มีใหลือกเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ผู้ค้าบางรายได้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการเสนอบริการชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง (COD)
สำหรับลูกค้า COD ช่วยลดความเสี่ยงในการจ่ายเงินซื้อสินค้าที่ยังไม่เห็นของจริง (และยังไม่รู้ว่าจะพอใจกับคุณภาพหรือไม่) ส่วนทางด้านผู้ค้าเอง รูปแบบการชำระเงินนี้จะทำให้ตัวแบรนด์มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการบริการลูกค้าที่เป็นมิตร มาดูเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับวิธีการชำระเงินที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้กันเลย
การเก็บเงินปลายทาง (COD) คืออะไร
การเก็บเงินปลายทาง หรือ COD รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “เก็บเงินปลายทาง” เป็นวิธีการชำระเงิน ที่ลูกค้าจะชำระเงินค่าสินค้าซึ่งส่งทางไปรษณีย์หลังจากที่ได้รับและตัดสินใจว่าจะเก็บสินค้านั้นไว้ ถ้าลูกค้าเลือกที่จะไม่รับสินค้านั้น สินค้าก็จะถูกส่งคืนให้ผู้ค้า
โดยปกติแล้ว ผู้ค้าจะเป็นผู้ชำระค่าขนส่งสำหรับการเก็บเงินปลายทาง เพราะผู้จ้าจะไม่สามารถทราบได้ว่าลูกค้าจะจ่ายเงินสำหรับสินค้านั้นหรือไม่เมื่อได้รับ และผู้ค้าต้องมั่นใจว่าสินค้านั้นจะได้รับการส่งคืน กระบวนการขายจะยังไม่สิ้นสุดจนกว่าสินค้าจะส่งถึงมือลูกค้า และลูกค้าชำระเงินค่าสินค้า
การเก็บเงินปลายทาง vs. การชำระเงินล่วงหน้า
การเก็บเงินปลายทาง (COD) นั้นต่างจากการชำระเงินล่วงหน้าโดยสิ้นเชิง สำหรับ COD ผู้ค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้า โดยไม่มีการการันตีว่าลูกค้าจะชำระเงินค่าสินค้า ลูกค้าจะสั่งซื้อโดยไม่ได้ชำระเงินล่วงหน้า (อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าหลายรายก็เสนอบริการเก็บเงินปลายทางโดยที่ลูกค้าต้องวางมัดจำหรือกรอกข้อมูลบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนเอาไว้ก่อน เพื่อให้ร้านค้าสามารถเรียกเก็บเงินได้เลยหากลูกค้าตัดสินใจรับสินค้าชิ้นนั้น)
ส่วนการชำระเงินล่วงหน้า ลูกค้าจะต้องชำระเงินค่าสินค้าก่อนที่จะได้รับสินค้า ในกรณีส่วนใหญ่ ลูกค้ายังมีตัวเลือกในการคืนสินค้าได้หากไม่พอใจ แต่ผู้ค้าจะไม่ส่งสินค้าก่อนจนกระทั่งลูกค้าชำระเงินเข้ามา ซึ่งจุดนี้จะต่างกับ COD
การเก็บเงินปลายทางทำงานอย่างไร
- สั่งซื้อสินค้า
- รับหรือคืนสินค้าที่จัดส่ง
- ชำระเงินหรือปฏิเสธการชำระเงิน COD
- เลือกวิธีการชำระเงิน
- ปิดการขาย
มาดูวิธีการทำงานของบริการเก็บเงินปลายทางสำหรับสินค้าที่ไม่เน่าเสียทีละขั้นตอนกัน
1. สั่งซื้อสินค้า
ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแคตตาล็อก ทางโทรศัพท์ หรือที่ร้าน ในบางกรณี ลูกค้าจ่ายค่าขนส่งและ/หรือเงินมัดจำ แต่ไม่ต้องชำระเงินค่าสินค้าที่สั่ง
2. รับหรือคืนสินค้าที่จัดส่ง
หลังจากได้รับการจัดส่ง ลูกค้าจะต้องตัดสินใจว่าจะรับสินค้าหรือคืนสินค้าทั้งหมดหรือบางส่วน
3. ชำระเงินหรือปฏิเสธการชำระเงิน COD
ลูกค้าจะต้องตัดสินใจว่า จะชำระเงินด้วย COD หรือไม่ ในบางกรณี ผู้ค้าอาจกำหนดกรอบเวลาที่ลูกค้าต้องตัดสินใจ
4. เลือกวิธีการชำระเงิน
ถ้าลูกค้าตัดสินใจเก็บสินค้าที่สั่งซื้อ ลูกค้าจะต้องเลือกวิธีการชำระเงิน ผู้ค้าส่วนใหญ่จะมีแพลตฟอร์มการชำระเงินอีคอมเมิร์ซอยู่แล้ว ที่ขะอนุญาตให้ลูกค้าเลือกสินค้าที่ต้องการเก็บและเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ลงทะเบียนไว้ หรือเพิ่มข้อมูลการชำระเงินใหม่ ผู้ค้าแต่ละรายอาจรองรับรูปแบบการชำระเงินที่ต่างกันไป และบางรายอาจจะรับเป็นเงินสด เช็ค หรื วอลเล็ตในมือถือได้อีกด้วย
💡 เคล็ดลับ: เมื่อคุณเปิดร้านออฟไลน์และออนไลน์ในแพลตฟอร์มที่ต่างกันออกไป ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนของสต๊อกมากขึ้น เนื่องจากทั้งสองระบบนั้นไม่ได้ซิงค์กัน ดังนั้น คุณจึงอาจต้องนับสต๊อกบ่อยขึ้นเพื่อปรับความแตกต่างระหว่างปริมาณสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และในระบบ POS ของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าระดับสต็อกนั้นถูกต้อง
5. ปิดการขาย
เมื่อลูกค้าชำระเงินสำหรับสินค้าที่รับไว้แล้ว ซึ่งมักทำผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณ การขายจะเสร็จสมบูรณ์
ข้อดีและข้อเสียของการเก็บเงินปลายทาง
ถ้าคุณกำลังเล็งๆ ว่าธุรกิจของคุณจะเสนอบริการเก็บเงินปลายทางดีไหม ก่อนอื่น คุณต้องมาชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและข้อเสียก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการเก็บเงินปลายทาง
การเก็บเงินปลายทางมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคหลายประการ
- ผู้บริโภคสามารถลองสินค้าได้โดยไม่มีความเสี่ยง: ก่อนที่จะจ่ายเงินซื้อ ผู้ซื้อควรตรวจสอบก่อนว่าสินค้านั้นตรงกับที่คาดหวังไว้หรือไม่ หากผลิตภัณฑ์เป็นเสื้อผ้า ผู้ซื้ออาจสั่งซื้อหลายขนาด สี หรือสไตล์ การสามารถเลือกขนาดที่พอดีที่สุดโดยไม่มีความเสี่ยงช่วยลดภาระทางการเงิน เพราะลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับทุกอย่าง ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อมากขึ้น
- ช่วยปรับปรุงกระแสเงินสด: ลูกค้าสามารถจัดการกระแสเงินสด และติดตามงบในกระเป๋าได้ดีขึ้น เมื่อจ่ายเงินเฉพาะสินค้าที่วางแผนจะเก็บไว้ แทนที่จะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับสินค้าที่อาจไม่สามารถขอคืนเงินเต็มจำนวนหรือบางส่วนได้ (ขึ้นอยู่กับนโยบายการคืนสินค้าของร้านค้า) ด้วยการเก็บเงินปลายทาง (COD) ลูกค้าจึงไม่จำเป็นต้องก่อหนี้ หากสั่งซื้อสินค้ามากกว่าที่ตั้งใจจะเก็บไว้
- ความยืดหยุ่นในการชำระเงิน: การเก็บเงินปลายทาง (COD) เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีทางเลือกในการชำระเงินที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์ของคุณมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้นในระยะยาว
💡เคล็ดลับ: การส่งใบเสร็จดิจิทัลทางอีเมลเป็นวิธีที่ดีในการเก็บรวบรวมข้อมูลการติดต่อของลูกค้าในขั้นตอนการชำระเงิน และนำไปใช้สร้างรายชื่ออีเมล เพื่อใช้ในการทำการตลาดเพื่อรักษาลูกค้า แต่คุณต้องมั่นใจว่า ลูกค้าได้ยินยอมที่จะรับข้อมูลจากคุณก่อนที่คุณจะส่งอะไรไปให้นะ
ข้อเสียของการเก็บเงินปลายทาง
การเก็บเงินปลายทางก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ท้ังสำหรับลูกค้าและผู้ค้า อาทิ
- รายการรอและสินค้าหมดสต็อก: ถ้าลูกค้าสั่งสินค้าจำนวนมากเพื่อให้ได้ทดลองสินค้าหลายๆ ขนาดหรือหลายๆ สี โดยทั่วไปแล้ว ก็มีโอกาสสูงที่สินค้าที่ลูกค้าคนอื่นต้องการจะหมดสต็อกในขณะที่ผู้ค้ากำลังดำเนินการคืนสินค้า การต้องอยู่ในรายการรอ (Waitlist) และเจอว่าสินค้าหมดสต๊อกอาจสร้างประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิดให้กับลูกค้าได้
- ไม่มีการรับประกันการชำระเงิน: การเก็บเงินปลายทางเป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ค้าปลีก เพราะพวกเขาผลิตและส่งสินค้าก่อนโดยไม่มีการรับประกันว่าจะได้รับเงินจากลูกค้า
- ความท้าทายในการจัดการกระแสเงินสด: การเก็บเงินปลายทางอาจสร้างปัญหาการจัดการกระแสเงินสดให้กับผู้ค้า เนื่องจากพวกเขาจะไม่ได้รับเงินในขณะสั่งซื้อ ซึ่งจะไม่สามารถนำไปลงทุนในส่วนอื่นของธุรกิจได้
- กำไรหาย: การเก็บเงินปลายทางอาจทำให้ผู้ค้าต้องประสบกับการคืนและแลกเปลี่ยนมากกว่าเดิม และบางครั้งทำให้ผู้ขายต้องจ่ายแพงถ้าพวกเขารับต้องผิดชอบค่าขนส่งและค่ารีสต๊อกอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจสะสม ทำให้ COD เป็นโมเดลการชำระเงินที่อาจส่งผลให้กำไรหายไป
4 ประเภทของวิธีการชำระเงินสำหรับ COD
แม้จะมีคำว่า “เงิน” ใน “การเก็บเงินปลายทาง” แต่การชำระด้วยเงินสดก็ไม่ใช่วิธีเดียวในบริการนี้
1. การชำระเงินผ่านมือถือ
ถ้าพนักงานขนส่งมีเครื่องอ่านบัตรติดไว้กับตัว พวกเขาสามารรับชำระเงินค่าสินค้าที่จัดส่งผ่านระบบ POS มือถือได้เลย โดยทั่วไปแล้ว การชำระเงินผ่านมือถือมีประโยชน์สำหรับการจัดส่งจากร้านอาหารหรือบริการแบบออนดีมานด์
📌เริ่มต้นใช้งาน: Shopify Payments เป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดในการเริ่มรับการชำระเงินทั้งในร้านค้า ทางออนไลน์ และระหว่างเดินทาง โดยรวยไว้ให้ในแผน Shopify POS ทุกแผนอยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องเสียเวลาเปิดใช้งานกับผู้ให้บริการภายนอก เพียงตั้งค่าเสร็จก็เริ่มขายได้เลย
2. เงินสด
บริษัทขนส่งและพนักงานขนส่งสามารถรับชำระเป็นเงินสดได้เหมือนกัน แต่วิธีนี้จะไม่ค่อยเห็นใช้กันบ่อยนัก นอกจากนี้ วิธีนี้ยังสร้างความเสี่ยงเพราะทำให้พนักงานขนส่งตกเป็นเป้าของอาชญากรรมได้
3. เช็ค
นอกเหนือจากเงินสดแล้ว ผู้ค้าบางรายก็รองรับเช็ค อย่างไรก็ตาม การชำระเงินด้วยวิธีการนี้อาจไม่ค่อยเป็นที่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ เพราะอาจะเกิดความล่าช้าในขณะที่รอให้เช็คเคลียร์ มีภาระงานด้านการบริหารเพิ่มขึ้นในการทำบัญชี และมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินหากเช็คเด้งหลังจากที่ลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว
4. การชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์
ถ้าคุณต้องการให้เวลาลูกค้าในการตัดสินใจว่าจะเก็บสินค้านั้นไว้หรือไม่ การชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคุณ โซลูชันการประมวลผลการชำระเงินมาพร้อมความปลอดภัยในระดับที่เช็คหรือเงินสดให้ไม่ได้ Shopify Payments เป็นตัวอย่างหนึ่งของบริการนี้
3 ตัวอย่างการเก็บเงินปลายทาง
ผู้ค้าเจ้าดังๆ กำลังหันไปนำเสนอบริการเก็บเงินปลายทางกันมากขึ้น เพื่อให้การช้อปปิ้งนั้นสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า ตัวอย่างของธุรกิจที่นำเสนอบริการนี้ก็อย่างเช่น
1. Prime Try Before You Buy
บริการจาก Amazon บริการนี้ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองสวมเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับในหลายขนาด สี หรือสไตล์ ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน แม้ว่าผู้ซื้อจะต้องมีบัญชี Amazon Prime และบัตรที่ลงทะเบียนไว้เพื่อใช้บริการนี้ แต่พวกเขาจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินจนกว่าจะตัดสินใจว่าจะเก็บสินค้าใดไว้
ลูกค้าสามารถเลือกสินค้ามาลองก่อนซื้อได้หลายรายการ หลังจากที่ลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว พวกเขามีเวลาเจ็ดวันในการตัดสินใจว่าจะเก็บชิ้นไหนไว้ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ลูกค้าก็จะเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Amazon ของพวกเขา ระบุสิ่งที่ต้องการ แล้ว Amazon จะเรียกเก็บเงินจากบัตรของลูกค้า ส่วนสินค้าใดที่ไม่ต้องการ ลูกค้าก็ต้องส่งคืน
2. Stitch Fix
บริการสไตลิ่งอย่าง Stitch Fix นำเสนอบริการเก็บเงินสดปลายทาง ลูกค้าจะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสไตล์ของเสื้อผ้าที่กำลังมองหา และงบประมาณโดยคร่าวๆ จากนั้นสไตลิสต์ของบริษัทก็จะเลือกสินค้าที่เข้าเกณฑ์ของลูกค้า
ลูกค้า Stitch Fix จะไม่รู้ว่าในพัสดุที่จัดส่งมามีอะไรบ้าง และจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับประมาณ 650 บาทต่อการจัดส่ง 1 ครั้ง ค่าธรรมเนียมนี้สามารถใช้เป็นเงินมัดจำสำหรับสินค้าที่ลูกค้าตัดสินใจเก็บไว้
เมื่อลูกค้าตัดสินใจได้แล้ว ลูกค้าจะต้องไปที่เว็บไซต์ของ Stitch Fix เลือกสินค้าที่ต้องการ ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงการจัดส่งครั้งถัดไป และชำระเงินผ่านวิธีการชำระเงินที่บันทึกไว้ในระบบ
ลูกค้า Stitch Fix จะจ่ายเงินสำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องการเก็บไว้และคืนสิ่งที่ไม่ต้องการ ถ้าพวกเขาตัดสินใจว่าจะไม่รับสินค้าใดเลย ค่าธรรมเนียมประมาณ 650 บาทจะไม่สามารถขอคืนได้
3. การจัดส่งอาหาร
การจัดส่งอาหารเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดของการเก็บเงินปลายทาง ลูกค้าสามารถสั่งอาหารทางโทรศัพท์ ออนไลน์ หรือผ่านแอป ถ้าพวกเขาเลือกที่จะไม่ชำระเงินล่วงหน้าทางออนไลน์หรือโทรศัพท์ ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินให้กับไรเดอร์เมื่อได้รับอาหาร
ลูกค้าสามารถจ่ายเป็นเงินสด ผ่านเครื่องอ่านบัตรพกพา หรือด้วยวิธีการอื่นที่ร้านอาหารรองรับ ถ้าลูกค้าไม่จ่าย ลูกค้าก็จะไม่ได้รับอาหาร
การเก็บเงินปลายทางอาจสร้างความเสี่ยงให้กับร้านอาหาร เพราะธุรกิจเหล่านี้ต้องลงทุนทั้งเวลา เงิน และวัตถุดิบในการเตรียมอาหาร โดยที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าผู้รับจะสามารถชำระเงินได้หรือไม่
นำบริการเก็บเงินปลายทางไปใช้กับร้านของคุณ
สำหรับผู้ค้าที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ การเก็บเงินปลายทางเป็นโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าสนใจการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ความสะดวกที่ไม่ต้องรับภาระหนี้เป็นแม่เหล็กชั้นเยี่ยมที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ การเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น อย่างการเก็บเงินปลายทาง ยังเป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรผ่านมูลค่าระยะยาวของลูกค้า (Customer Lifetime Value: CLV)
ขายในแบบที่ลูกค้าของคุณชอบ
มีเพียง Shopify POS เท่านั้นรวมการขายออนไลน์และในร้านได้อย่างลงตัว ทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่าย รับทุกเครื่องมือที่คุณจำเป็นต้องใช้ เพื่อก้าวออกจากร้านค้าและไปหาลูกค้าถึงที่ที่พวกเขาอยู่ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยี การผสานการทำงานของระบบ หรือการรายง่ายต่างๆ ที่ไม่ซิงค์กันได้เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเก็บเงินปลายทาง
การเก็บเงินปลายทางคืออะไร
การเก็บเงินปลายทาง คือการที่ลูกค้าชำระเงินสำหรับสินค้าด้วยเงินสด (หรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่รองรับ) เมื่อได้รับสินค้า ทำให้ลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งซื้อ
การเก็บเงินปลายทางทำงานอย่างไร
ในการเก็บเงินปลายทาง ลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้า ตัดสินใจว่าจะเก็บหรือคืนสินค้าหลังจากได้รับ และชำระเงินเฉพาะค่าสินค้าที่เก็บไว้
การเก็บเงินปลายทางปลอดภัยหรือไม่
การเก็บเงินปลายทางเรียกได้ว่ามักจะปลอดภัย แต่อย่างไรก็มีความเสี่ยงอยู่เสมอ ยิ่งถ้าคุณรับชำระเป็นเงินสด หากเป็นกรณีนี้ ควรให้พนักงานขนส่งรับชำระค่าสินค้าก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะไปอยู่ในมือลูกค้า และในการเพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ ควรเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการการชำระเงิน เช่น Shopify Payments